หนุ่มแวะปั๊มไม่รู้ลูกลงรถ คิดว่านอนใต้ผ้าห่ม ขับออกมาไกลถึงรู้ ตกใจร่ำไห้ตลอดทาง

วันที่ 14 ม.ค. 67 เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี รับแจ้งขอความช่วยเหลือ จาก นายอนุสรณ์อายุ 36 ปี พร้อมด้วยภรรยา ว่าลูกชาย อายุ 10 ขวบ หายไปจากรถของตนเอง โดยไม่ทราบว่าลูกได้หายจากรถตอนไหน และปั๊มน้ำมันไหน มาทราบว่าลูกหายก็ตอนขับรถมาถึง อ.วังน้อย เข้าเขต จ.พระนครศรีอยุธยา

ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงประสานไปยังลูกข่ายตามจุดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี เข้าตรวจสอบภายในบริเวณปั๊มน้ำมันว่ามีเด็กพลัดหลงจากพ่อ แม่ หรือไม่ พร้อมแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ 191 ให้ช่วยประสานงาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ได้รับแจ้งว่า พบเด็กพลัดหลงจากพ่อแม่ อยู่ภายในปั๊มน้ำมัน กม.10 ถ.มิตรภาพ อ.แก่งคอย (ขาเข้าเมืองสระบุรี)

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ พบเด็กนั่งอยู่ในร้านอาหารภายในปั๊มน้ำมัน ด้วยสีหน้าที่เศร้า และสอบถามจึงทราบว่าพลัดหลงกับพ่อ และแม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมายัง สภ.แก่งคอย และประสานไปยัง นายอนุสรณ์ ว่าพบแล้ว

เมื่อ นายอนุสรณ์ และครอบครัวมาถึง สภ.แก่งคอย ทุกคนต่างดีใจ โผเข้ากอดกันร่ำไห้ด้วยความดีใจ จากนั้นได้เดินทางไปยังปั๊มน้ำมัน ที่พลัดหลงเพื่อที่จะเข้าไปขอบคุณ นางสาคร (เปิ้ล) พนักงานร้านอาหารภายในปั๊ม ที่ช่วยดูแลลูกของตนเอง

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนและภรรยาพร้อมลูกทั้งหมด 5 คน ขับรถฟอร์จูนเนอร์ จากจ.อุบลฯ เพื่อกลับบ้านที่ จ.ระนอง หลังจากไปเยี่ยมแม่และยายมา ระหว่างทางได้จอดพักล้างหน้าตามปั๊มตลอด เนื่องจากเกิดอาการง่วง เมื่อมาถึงปั๊มที่แก่งคอยได้ลงไปล้างหน้า และกลับขึ้นมาบนรถ ก็ยังมองดูว่าลูกนอนหลับกันหมด โดยห่มผ้าห่มกันคนละผืน ตอนลูกลงรถตนไม่เห็นจึงขับออกมา เพราะคิดว่าลูกนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม มาทราบอีกทีตอนจอดรถอีกปั๊มหนึ่งถึงรู้ว่าลูกหายไป

ตอนนั้นตนและภรรยาตกใจมาก จึงโทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ให้ช่วยตามหา และช่วยประสานกัน พร้อมโทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภรรยาของตนตกใจมาก จนสติจะหลุดอยู่แล้ว ร้องไห้ตลอดทางที่ตามหาลูก ส่วนลูกชายของตนนั้นเป็นเด็กที่ไม่ดื้อ ไม่ซน และเป็นคนที่ไม่ค่อยจะพูดจากับคนแปลกหน้า

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ที่ช่วยตามหาลูกชายตนจนพบเจอ ซึ่งตนจะจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปตลอดชีวิตเลย ส่วนตนขอฝากให้คนขับรถขอให้มีสติ เช็กรถอย่างเดียวไม่พอ ต้องเช็กคนด้วย จะขึ้นจะลงจากรถ เข้าห้องน้ำ คนเดียวหรือมีคนที่รวมเดินทางเมาเข้าด้วยไหม ควรดูทุกครั้งก่อนที่จะออกรถไปสู่สถานีต่อไป

ส่วนเด็กชายวัย 10 ขวบ เล่าว่า ตนลงไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ได้บอกพ่อ เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ก็ยังสงสัยว่ารถหายไปไหน ก็เลยไปถามป้าที่อยู่ภายในปั๊มว่ามีโทรศัพท์ไหม และป้ายังถามว่าตนจำเบอร์ของพ่อ แม่ได้ไหม ซึ่งตนก็จำไม่ได้ ซึ่งป้าก็ยังหาข้าว หาน้ำให้ตนกิน ตนก็เลยนั่งรอพ่ออยู่ในปั๊ม

ด้าน นางสาคร (เปิ้ล) คนที่ช่วยเหลือ กล่าวว่า ตนบอกให้น้องมานั่งอยู่ภายในร้าน เพื่อที่จะรอพ่อกับแม่มารับตัว โดยเด็กบอกกับตนว่าพ่อกับแม่ขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาวออกไป และเมื่อถามเบอร์โทรของพ่อ และแม่ เด็กบอกว่าจำเบอร์ไม่ได้ ตนจึงให้นั่งรอ ซึ่งเด็กก็ไม่มีอาการตื่นตกใจอะไร

ตนยังกำชับเด็กว่าไม่ต้องไปไหน ใครมาเรียกก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวเขาจับตัวไป ตนก็เอาข้าวให้เด็กกิน จากนั้นก็ได้บอกกับ ผจก.ปั๊ม ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประสานรับตัวน้องออกไป