ข่าวทั่วไป

‘ชลน่าน’ แจงดราม่า ยาบ้า 5 เม็ด เป็นผู้เสพ ของเดิมกำหนดที่ 15 เม็ด ยันทำตามกฎหมาย

Loading

'ชลน่าน' แจงดราม่า ยาบ้า 5 เม็ด เป็นผู้เสพ ของเดิมกำหนดที่ 15 เม็ด ยันทำตามกฎหมาย

‘ชลน่าน’ แจงดราม่า ยาบ้า 5 เม็ด เป็นผู้เสพ เผยของเดิมกำหนดที่ 15 เม็ด ยันทำตามกฎหมาย ผ่านความเห็นชอบจากครม. เร่งอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ

กรณีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ.2567 เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการกำหนดหน่วยการใช้ และปริมาณการมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1, 2 หรือ 5 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ เช่น แอมเฟตามีน ไม่เกิน 5 หน่วยการใช้ เฮโรอีน 300 มิลลิกรัม แอลเอสดี 100 มิลลิกรัม เป็นต้น

ซึ่งเป็นการลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างมากว่า ไม่ควรเปิดช่องให้เกิดการครอบครองไว้เพื่อเสพ พร้อมมีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ รมว.สธ. ถึงการลงนามในประกาศดังกล่าวด้วย

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.67 นพ.ชลน่าน ศรีแก้วรมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว การจะออกประกาศกระทรวงใดๆ จะต้องมีการพิจารณาร่วมกันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการพิจารณาเห็นชอบออกประกาศกระทรวงนั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการพิจารณาร่วมกันกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือคณะกรรมการ ป.ป.ส. โดยทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน และนำเสนอต่อ ครม. หลังจากได้รับความเห็นชอบแล้วถึงมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากการหารือร่วมกัน มีมติในการกำหนดปริมาณหน่วยการใช้หรือการครอบครองเพื่อเสพ อย่างแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ที่ทางสธ. เคยเสนอไปที่ 10 หน่วยการใช้ แต่เมื่อประชุมร่วมกัน พิจารณาเห็นชอบตัวเลขเหลือไว้ที่ 5 เม็ด แต่จะต้องดูปัจจัยอื่นร่วมด้วย ว่าเป็นการครอบครองไว้เพื่อเสพหรือเพื่อจำหน่าย

“เจตนารมณ์ของกฎกระทรวงนี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ในมาตรา 24 วรรคสอง และมาตรา 107 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่ต้องการแยกผู้เสพกับผู้จำหน่ายยาเสพติด โดยกำหนดให้ผู้เสพถือเป็นผู้ป่วย ที่หากสมัครใจเข้ารับการบำบัด ก็จะหายจากการใช้ยาเสพติดได้

ดังนั้น กฎหมายให้อำนาจ รมว.สธ. ในการออกประกาศกฎกระทรวงในเรื่องนี้ เป็นที่มาของการกำหนดว่า หากครอบครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานไว้ว่าเป็นการครอบครองเพื่อเสพ แต่ก็ต้องดูปัจจัยแวดล้อมด้วยว่า เป็นการครอบครองเพื่อเสพหรือเพื่อจำหน่าย เพราะการครอบครองเพื่อจำหน่ายจะมีโทษสูงกว่า

ส่วนการครอบครองเพื่อเสพนั้นจะให้ถือว่าเป็นผู้ป่วย และจะต้องเข้าสู่การบำบัด หากบำบัดจนครบคอร์สแล้วก็จะถือว่าผ่านการบำบัดยาเสพติด ผู้นั้นก็ไม่ต้องรับโทษในฐานครอบครองยาเสพติด” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า หลายคนเข้าใจว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยกำหนดปริมาณการครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง

เนื่องจากก่อนหน้านี้เรามีกฎหมายเรื่องยาเสพติด คือพ.ร.บ.ยาเสพติดฯ พ.ศ.2522 ที่กำหนดปริมาณหน่วยการใช้ไว้ เช่น แอมเฟตามีน มากกว่า 15 หน่วยการใช้ให้ถือว่าเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่าย น้อยกว่านั้นให้สันนิษฐานว่า เป็นการครอบครองไว้เพื่อเสพ ซึ่งโทษจะน้อยกว่า หรืออย่างเฮโรอีน ก็กำหนดไว้ว่า ครอบครองมากกว่า 300 มิลลิกรัม ก็ถือเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่ายเช่นกัน ซึ่งโทษจะหนักกว่าการครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพ

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า จากนั้นในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ใช้อำนาจออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อพิจารณากำหนดปริมาณหน่วยการใช้ยาเสพติดไว้เพื่อเสพที่ 5 เม็ด ต่อมานั้นก็เลือกตั้งซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล มาเป็น รมว.สธ. โดยในปี พ.ศ.2564 ออกกฎหมายใหม่ เป็น พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ที่ให้อำนาจ รมว.สธ. กำหนดหน่วยการใช้เพื่อเสพ

ซึ่งตอนนั้นเสนอให้กำหนด 1 เม็ดคือผู้ป่วย มากกว่า 1 เม็ดคือผู้จำหน่าย แต่ครั้งนั้นไม่ผ่านความเห็นชอบจากครม. และเมื่อตนมาอยู่ในตำแหน่ง รมว.สธ. ก็มาพิจารณาเรื่องนี้ จนมาเป็นข้อสรุปที่การสันนิษฐานไว้ เพื่อเสพคือการครอบครองยาเสพติด เช่น ยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด

เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ รมว.สธ. ในการออกประกาศนี้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนเข้าใจถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และหน้าที่ของตนคือการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *