ข่าวทั่วไป

เจ๊เจ้าของร้านเปิดใจ รับโมโหรถแห่งานบวช เสียงดังสะเทือนทั้งบ้าน เผยสามีก็ป่วย

เจ๊เจ้าของร้านเปิดใจ รับโมโหรถแห่งานบวช เสียงดังสะเทือนทั้งบ้าน เผยสามีป่วย ขอร้องดีๆ ไม่ฟัง เผยหยิบเก้าอี้โยนออกไป แต่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร

วันที่ 18 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้” โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ของกลุ่มคนมีปากเสียงทะเลาะกัน ระหว่างเจ้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มผู้ร่วมขบวนแห่นาค ซึ่งในคลิปจะเห็นการปะทะคารมกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะฝ่ายเจ้าภาพงานแห่นาค ได้พูดประกาศผ่านไมค์และเดินเข้าไปต่อว่าเจ้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างถึงหน้าร้านอย่างเผ็ดร้อน

สำหรับคลิปดังกล่าว เพจเฟซบุ๊กชื่อดังได้ระบุข้อความที่คลิปไว้ว่า “สงสารเจ้าภาพนะ..กับงานแค่วันเดียว…มุมของร้านค้า เขาอาจจะไม่ชอบเสียงดัง เหตุมันเลยเกิด พวกผมไปสร้างความสนุกให้เจ้าภาพ ไม่ได้มีเจตนาจะไปรบกวนท่าน แต่ท่านจะเอาเก้าอี้มาปาพวกผม และมายืนชี้นิ้วด่าแบบนี้ไม่ได้นะครับ อยากให้คุณป้าคุยดีๆ กับพวกผมหน่อย พวกผมแค่มาสร้างความสนุกให้กับเจ้าภาพ เจ้าภาพเขาจัดงานแค่วันเดียว ไม่ได้จัดงานแบบนี้ทุกวัน สงสารเจ้าภาพเลย #รถแห่วาเลนไทน์ #นิวนิวแบนด์ #ที่นี่ช่องแคตาคลี อย่าแล้งน้ำใจเลยวิถีงานบุญของคนไทย เดี๋ยวเขาก็แห่ผ่านไปลดความใจแคบลง คิดบวกชีวิตจะได้สดชื่น สาเหตุเกิดจากอะไรคะ ทำไมถึงทำกิริยาแบบนี้ ทางเจ้าของร้านออกมาปาเก้าอี้ใส่นักดนตรี บอกว่าให้เลิกเล่น ถ้าจะเล่นไปเล่นกันที่อื่น ทางเจ้าของร้านเขาไม่ชอบเขาหนวกหูค่ะ”

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวจึงตรวจสอบต้นฉบับคลิปก่อนจะทราบว่า เจ้าของคลิปดังกล่าวเป็นนักร้องประจำวงดนตรี ฟิวเจอร์แบนด์ ในพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ได้รับการเปิดเผยจากนายมาร์ค อายุ 27 ปี ระบุว่า

Parade 2 1

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 มี.ค.67 วงดนตรีของตนได้รับการว่าจ้างให้ไปร้องนำในขบวนแห่นาค จึงนำรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงไปร่วมงานแห่ ตามที่ได้รับการว่าจ้าง ซึ่งก็ได้มีการตั้งขบวนแห่จากบ้านงาน เพื่อพานาคไปเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดช่องแค อยู่ห่างไปประมาณ 3 กิโลเมตร ส่วนตนก็ร้องเพลงอยู่บนท้ายรถบรรทุก เพื่อทำหน้าที่สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้มาร่วมขบวนไปตามปกติ แต่เมื่อขบวนกำลังจะผ่านหน้าร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างของคู่กรณี ที่บริเวณวงเวียนช่องแค จู่ๆ มี ผู้หญิงเจ้าของร้าน เดินเข้ามาชี้นิ้วต่อว่าแล้วจึงเดินกลับไปหยิบเก้าอี้พลาสติกมาเขวี้ยงใส่ที่รถเครื่องขยายเสียง จนตนต้องหยุดร้อง และเบาเสียงเพลงทันที

จากนั้นผู้หญิงเจ้าของร้านคนเดิม ยังเดินเข้ามาต่อว่าอีกรอบ บอกให้หยุดและให้ไปส่งเสียงเล่นดนตรีกันที่อื่น เนื่องจากมีคนป่วยเป็นโรคหัวใจ ซึ่งหลังจากที่มีการถูกต่อว่า ทางเจ้าภาพงานแห่ ได้เข้าไปพูดคุยและมีปากเสียงกับผู้หญิงเจ้าของร้านตามที่เห็นในคลิป ก่อนจะมาบอกให้ตน ร้องเพลงต่อไม่ต้องสนใจอะไร เพราะเขารับปากจะรับผิดชอบเอง จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกจ้างงานต่อไปจนถึงวัด

“สิ่งที่เขาต่อว่ามา ผมก็เข้าใจนะ แต่ผมอยากให้เขาเข้ามาบอก เข้ามาคุยดีๆ มากกว่า ที่จะเข้ามาชี้หน้าต่อว่า และมาปาของใส่รถ ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกันเลย แล้วอีกอย่าง ขบวนแห่ก็กำลังจะเคลื่อนผ่านหน้าร้านไปอยู่แล้ว และใช้เวลาไม่นาน ประกอบกับงานแห่งานบวชแบบนี้ ไม่ได้จัดกันทุกวัน เพราะนานๆ จะจัดกันที จึงไม่น่าจะแล้งน้ำใจกันแบบนี้เลย” นายมาร์คกล่าว

พร้อมกับระบุทิ้งท้ายด้วยว่า หลังจากเกิดเรื่องราวขึ้น ก็ทราบข่าวว่าทางเจ้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าภาพงานด้วย แต่ไม่รู้ว่าแจ้งข้อหาอะไร

Parade 1 1

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าภาพงานบวช เพื่อสอบถามข้อมูลอย่างละเอียด แต่ได้รับการระบุว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ อีก เนื่องจากมีการเจรจากับคู่กรณี และเคลียร์กันไปบ้างแล้ว จึงไม่อยากมีปัญหาต่อ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่เกิดปัญหา เพื่อสอบถามข้อมูลอีกด้าน และพบว่า ร้านดังกล่าว โดยมีเจ้าของร้านคือ เจ๊หน่อย ก่อนพาผู้สื่อข่าวไปดูเก้าอี้พลาสติก แบบเตี้ยสีฟ้า ที่มีรอยแตกร้าวอยู่ข้างหนึ่ง พร้อมยอมรับว่า เก้าอี้ตัวนี้ใช้เขวี้ยงใส่รถแห่งานบวชนาค เพราะโมโห ที่เดินไปพูดขอร้องกันดีๆ แล้ว แต่ไม่ฟังกันเลย

เจ๊หน่อย เปิดเผยว่า ตนป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และสามีก็ป่วยด้วยโรคหัวใจเช่นกัน ส่วนวันเกิดเหตุยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็นว่าขบวนแห่นาคของเขาใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ และติดเครื่องขยายเสียง ซึ่งดังมากๆ ดังจนกระจกทุกบานในบ้านสั่นสะเทือนไปหมด และด้วยความเป็นห่วงสามี จึงได้เดินเข้าไปกับทางเจ้าภาพงาน ขอให้เขาลดใช้เสียงลงหน่อย เพราะดังมาก ซึ่งรอบแรกที่คุยกัน ก็ไม่รู้เขาว่ากันอย่างไร ปล่อยให้ดนตรียังมีการเล่นต่อไป ตนจึงเดินออกไปอีกรอบ โดยพยายามบอกกับทางคนขับรถบรรทุกว่าให้เขาเบาเสียง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ มิหนำซ้ำเมื่อเดินไปที่ข้างรถ เพื่อจะบอกกับนักร้องที่กำลังร่ายเพลงอย่างเมามัน ก็ไม่ได้รับความสนใจ เพราะเสียงดังมาก

ทำให้ตนเกิดความโมโห เลยหยิบเก้าอี้โยนออกไป แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร เพื่อแต่แค่ต้องการให้เขาหยุด มาฟังสิ่งที่ร้องขอ ซึ่งก็ได้ผล เพราะตนโยนแรงไปหน่อย จนไปโดนรถของเขา แล้วเสียงก็เงียบทันตาเห็น พร้อมกับเข้ามารุมต่อว่าตนกันที่หน้าร้านกันอย่างที่เห็นตามคลิป จึงทำให้ตนเกิดความหวาดกลัว เลยรีบไปยังโรงพัก เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้

เจ๊หน่อย เล่าว่า หลังจากที่กลับมาจากโรงพักแล้ว ก็คิดว่าเรื่องมันคงจบๆ ไป แต่เปล่าเลย พอตนเข้าไปนั่งกินข้าวในร้าน ก็ได้ยินเสียงกระจกแตก ที่บริเวณหน้าร้าน จึงได้รีบออกไปดู โดยตอนแรกยังคิดว่าเป็นกระจกของร้านแตก แต่ที่ไหนได้ เพราะตั้งแต่หน้าร้านลามเข้ามาถึงภายใน มีเศษแก้วของขวดเบียร์ยี่ดังแตกเกลื่อนเต็มพื้นไปหมด จึงรีบไปเปิดกล้องวงจรปิดเช็คดู พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์สีแดง โดยมีคนซ้อนท้าย ใส่เสื้อสีขาว เป็นผู้นำขวดเบียร์ มาขว้างปาบนถนนฝั่งตรงข้ามร้าน ซึ่งในกล้องวงจรปิดสามารถจับแผ่นป้ายทะเบียนรถของผู้ก่อเหตุไว้ได้ชัดเจน อีกทั้งภายในคลิปภาพจะเห็นว่า ตอนที่ผู้ก่อเหตุขว้างขวดเบียร์ เกือบปาไปไปโดนหัวของผู้ที่ขับขี่รถสวนทางมาด้วย และเรื่องนี้ตนก็ได้มีการไปแจ้งความเอาไว้เช่นกัน และจะไม่ขอพูดอะไรแล้ว ค่อยไปเจอกันที่ศาลทีเดียวเลย

ด้านนายภัทรเดช หลักทรัพย์ นายกเทศมนตรีช่องแค เผยว่า ส่วนตัวขอไม่ชี้ชัดว่าใครเป็นคนผิด และเข้าใจเหตุผลของทั้ง 2 ฝ่าย แต่มองว่าในสถานการณ์แบบนี้ ทางฝ่ายเจ้าภาพน่าเคลื่อนขบวนไปให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจะดีกว่า ส่วนเรื่องที่คนในคลิปได้มีการพูดผ่านเครื่องขยายเสียงต่อว่าเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง และพูดจาท้าทาย พร้อมอวดสรรพคุณว่าตนเองเป็นทนายนั้น ตนยอมรับว่ารู้จักกับคนนี้ แต่เขาอยู่ในพื้นที่ตำบลอื่น ไม่ได้ ต.ช่องแค และก็ไม่ได้เป็นทนายตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *