ข่าวทั่วไป

เหยื่อรับกรรมซ้ำ รถทัวร์ชนรถตู้ ดับ 1 พิการ 1 สืบทรัพย์ฟ้องแพ่ง หัวหมอโยกย้ายจนไม่มีให้ยึด แต่โพสต์อยู่ดีกินดี

เหยื่อรับกรรมซ้ำ รถทัวร์ชนรถตู้ ดับ 1 พิการ 1 สืบทรัพย์ฟ้องแพ่ง หัวหมอโยกย้ายจนไม่มีให้ยึด แต่โพสต์ใช้ชีวิตอยู่ดีกินดี สวนทางครอบครัวเหยื่อ ชีวิตเปลี่ยนไปทั้งบ้าน

วันที่ 26 ส.ค.67 สมาชิกเฟซบุ๊ก “Naphatsawan Kat Klinnin” โพสต์ขอความช่วยเหลือ หลังมีรถทัวร์ชนท้ายรถตู้ ทำให้ครอบครัวที่นั่งมาในรถตู้ 5 ราย พิการนอนติดเตียง 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย ก่อนฟ้องแพ่งสืบทรัพย์เจ้าของรถทัวร์ แต่ปรากฎว่า เจ้าของรถทัวร์โยกย้ายทรัพย์สินไปให้ญาติหมดแล้ว ทำให้ไม่มีอะไรให้ยึด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงตกอยู่ครอบครัวผู้เสียหาย โดยระบุว่า

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะโดนแบบนี้กับตัว ไม่เคยนึกจริงๆ นะ 4 ปีกว่าแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ หลายๆ ท่านทราบเรื่องราวมาบ้างแล้ว วันนี้ขอลงเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้

19 ม.ค.63 เกือบๆ 2ทุ่ม ครอบครัวประสบอุบัติเหตุ สามีเป็นคนขับรถตู้ ขับเลนขวาสุด ช่องทางด่วน ถนนรัตนาธิเบศร์ นนทบุรี มีรถทัวร์คันนึงมาจากช่องซ้ายสุด จะกลับรถ
พุ่งมาชนข้างซ้ายของรถตู้ของเรา มีคนเจ็บหนัก 4 คน คุณพ่อสามี / ตัวเรา / ลูกชายคนเล็ก / ลูกสาวคนโต คุณพ่อสามีรักษาตัวได้ไม่นานก็เสียชีวิต ลูกชายก็ชีวิตเปลี่ยน ใช้ชีวิตปกติได้ไม่นาน มองเห็นพ่อแม่ พี่ๆ ปู่ย่า ตายายได้ไม่นาน ยังจำหน้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ก็กลายเป็นคนพิการ

เราก็ดำเนินคดีตามกฎหมายกับพวกเขา สามีเป็นโจทก์ที่ 1 น้องสาวสามีเป็นโจทก์ที่ 2 เราคือโจทก์ที่ 3 ลูกสาวคือโจทก์ที่ 4 ลูกชายคือโจทก์ที่ 5 ส่วนจำเลย คนขับเป็นจำเลยที่ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นจำเลยที่ 2 ตัวภรรยา เป็นจำเลยที่ 3 (สามีเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด เลยไม่ถูกฟ้อง) บริษัทประกันเป็นจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 1-3 ไม่เคยมาศาลเลย ย้ำว่าไม่มาเลย ให้ทนายเป็นคนดำเนินการทั้งหมด

วันสืบพยาน ศาลแพ่งไกล่เกลี่ย ทนายเขาก็จัดการขอลดยอดหนี้ เราก็ลดให้นะ เหมือนเจ็บฟรี ศาลก็ทำสัญญายอมของโจทก์ที่ 1-4 ส่วนของลูกชายก็รอศาลท่านมีคำพิพากษา ปรากฎว่า!!! จำเลยก็ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่งวดแรก ไม่จ่าย เงียบหายไปเลย ปกติก็ไม่เคยติดต่อเราตั้งแต่ถูกฟ้องแล้ว จนเราโทรทวงถามก็ไม่จ่าย นี่คือครั้งแรกที่ไม่จ่าย

ทางเรากับสามีก็ทำการสืบทรัพย์ พบว่า หลังทำสัญญายอมแค่หนึ่งวัน คือวันรุ่งขึ้น สามีของจำเลยที่ 3 ที่ไม่ได้ถูกฟ้องโอนที่ดินที่เป็นสินสมรสให้คนอื่น ก็คือ ลูกติดของสามีกับภรรยาเก่า จนเราฟ้องฐานโกงเจ้าหนี้ คราวนี้เราต้องไปฟ้องที่ศาลแขวงอุบลราชธานี ศาลท่านก็ให้ไกล่เกลี่ยอีกครั้ง รอบนี้เราฟ้องภรรยาเป็นจำเลยที่ 1 ฟ้องสามีเป็นจำเลยที่ 2
ฟ้องลูกติดสามีเป็นจำเลยที่ 3 ทางจำเลยที่ 1 เขาเสนอขายรถทัวร์คันเกิดเหตุใช้หนี้เรา

เราขอให้ทางจำเลยที่ 2 ช่วยจำเลยที่ 1 ขายรถด้วยในฐานะที่เขาเคยเป็นสามีภรรยากัน หากขายรถไม่ได้ ให้ร่วมกันชดใช้เงินให้แก่เรา ทางจำเลยยินยอม เราก็ถอนฟ้องคดี พอครบกำหนดตามที่ศาลท่านให้ไว้ปุ๊บ!!! ผิดนัดชำระหนี้อีกแล้ว รอบสองแล้ว ไม่จ่าย เงียบหายอีกแล้ว

เชื่อมั้ย สองคนนี้เขาหย่ากันก่อนศาลแพ่งจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษาในส่วนของลูกชาย เพียงแค่ 1 เดือน!!! คำพูดของคนครอบครัวนี้เชื่อถือไม่ได้ พฤติกรรมก็เชื่อถือไม่ได้ ฟ้องศาลมาหลายรอบ หลายคดีแล้ว ห้างยังทำธุรกิจตลอด ตัวภรรยายังลงข้อมูลใน facebook ตลอด ไปเที่ยวนู่น เที่ยวนี่ พาลูกทัวร์ไปนู่น ไปนี่ แต่!!!! งบดุลไม่ส่งนะจ๊ะ เงินไปไหนน้ออออออ ท้อแท้…

ใจเขาใจเราเนาะ หัวอกคนเป็นแม่เหมือน น่าจะเข้าใจ น่าจะเห็นใจกันบ้าง มีลูก ใช้เงินมั้ย ใช้เงินขนาดไหน ลูกชายก็วนเวียนเข้าออกโรงพยาบาล ของใช้อีกจิปาถะ ถังออกซิเจน เครื่องผลิตออกซิเจน แพมเพิร์สซื้อทุกเดือน แผ่นรองซับ ทุกอย่างต้องใช้เงิน เงิน เงิน ลูกหนี้ลอยตัวเหนือปัญหา มันใช่หรอ ลูกหนี้จะอ้างว่า ส่งประกันรถทุกเดือน ทำไมต้องจ่ายเงินให้เราอีก ก็ได้จากประกันไปแล้ว

คือต้องอธิบายคนแกล้งโง่ยังไงดี ยังมีอีกเยอะกลโกงจากครอบครัวนี้ ยังมีให้ปวดหัวอีก นี่คือท้อแท้มากนะ เหนื่อยมากนะ ร้องไห้ เสียน้ำตามานับครั้งไม่ถ้วน ลูกชายพิการตลอดชีวิต มันเศร้ามั้ย ตามองไม่เห็น ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องกายภาพ ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เขาจะใช้ชีวิตยังไง บอกตามตรงว่า เคยมีความคิดไม่อยากอยู่แล้ว เพราะมันเหนื่อย แต่มองลูกแล้ว ฉันจะตายยังไม่ได้ ลูกฉันยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าฉันตาย เขาจะเป็นยังไง

แม่ต้องขอความเป็นธรรมให้ลูกก่อน ถึงมันจะยาก แต่ก็ต้องทำ ตอนนี้พึ่งยาไปก่อน deanxit กับ lorsatan ค่ะ ดิฉันเป็นความดันโลหิตสูง ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมามันทั้งเครียด วิตกกังวล กลัว ไม่ได้กระทบแค่เรานะ สามีเป็นโรคนอนไม่หลับ ลูกสาวเป็นสมาธิสั้น ต้องพาปรึกษาคุณหมอตลอด รับยามาทานตลอด

อาการของลูกชายตอนนี้ กายภาพทุกวัน อาการดีขึ้นบ้าง พลิก คว่ำ ลุกขึ้นนั่งได้ แต่นั่งได้ไม่นาน เพราะหลังยังไม่แข็ง ยังใส่สายระบายน้ำในโพรงสมอง คงใส่ตลอดชีวิต ทานยากันชักทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ทานยาอยู่ 2 ตัว คือ Depakine กับ Keppra ต้องระวังเรื่องของการป่วย เพราะเด็กไม่ได้เดิน ไม่ได้ออกกำลัง ปอดจะมีปัญหา ปอดไม่แข็งแรง ตอนนี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

หัวจะปวดที่ต้องเจอคนแบบนี้ เห้อ… สืบทรัพย์กับตัวเจ้าของที่เป็นภรรยา เชื่อมั้ย เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ไม่เจอทรัพย์สินใดๆ เลย นอกจากรถทัวร์คันนี้ เงินมีพันกว่าบาทติดบัญชี แต่ลงรูป ลงคลิป ชีวิตดี๊ดี เงินไปไหนหมด โยกไปหมดแล้วมั้ง

ที่มา : Naphatsawan Kat Klinnin

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *