ข่าวทั่วไป

หมอธีระวัฒน์ เปิดข้อมูล ผลชันสูตรผู้เสี ยชีวิต จากวัคซี นโ ควิด 326 ราย

Loading

หมอธีระวัฒน์ เปิดข้อมูล ผลชันสูตรผู้จากเสี ยชีวิต วัคซีนโ ควิด 326 ราย

หมอธีระวัฒน์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เปิดเผยรายงาน ชันสูตรผู้เสี ยชีวิตจากวัคซีนโ ควิด 326ราย ผลข้างเคียงของวัคซีน มีการเสี ยชีวิตอย่างมาก
หมอธีระวัฒน์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า

ชันสูตรผู้เสี ยชีวิตจากวัคซีนโ ควิด 326ราย

ในระยะระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดการระบ าดโ ควิด นอกจากผู้ที่เสี ยชีวิตจากโควิดโดยตรงแล้ว ยังมีรายงาน ผลข้างเคียงของวัคซีน จนกระทั่งแท้จริงแล้ว มีการเสี ยชีวิตอย่างมากด้วย

เปิดรูปภาพ

รายงานเหล่านี้ ทั้งจากประชาชน จากแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วย ถูกมองข้ามทั้งนี้ ด้วย หลักการ และความเชื่อ ที่ว่าวัคซีน ช่วยป้องกัน ไม่ให้ติดเ ชื้อ จนกระทั่งแม้ว่า ติดก็จะมีอาการไม่มากและป้องกันการเสี ยชีวิตได้จนถึงป้องกันการเกิดลองโ ควิด และการ ที่เ จ็บป่ว ยหรือมีการเ สียชีวิตจากวัคซีนนั้น มีปริมาณสัดส่วนน้อยมากกับประโยชน์ของวัคซีนที่ให้ทั้งโลก

เปิดรูปภาพ

แม้ในระยะต่อมา มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ซึ่งให้ข้อมูลอีกด้าน กลับถูกมองไปว่า เป็นกลุ่มต่อต้านวัคซีน โดยไม่ได้พิจารณาถึงข้อมูลและหลักฐานให้ชัดเจน และประการสำคัญก็คือในผู้เสี ยชีวิตนั้นไม่ได้รับการชันสูตร จึงไม่สามารถหาความเชื่อมโยงได้ชัดเจน

รายงานนี้ มีคณะทำงาน ประกอบไปด้วยแพทย์และนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน จาก เยล จากสถาบันมะเ ร (Cross cancer institute) แคนาดา องค์กรอิสระจากสหรัฐ ได้ร่วมกันวิเคราะห์และรายงานในคลังฐานข้อมูล Zenodo ที่ดำเนินการภายใต้สหภาพยุโรป โปรแกรม openAIRE และองค์กร CERN (European Organization for Nuclear Research) เพื่อส่งเสริมทางเชื่อมโยงการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ อย่างยั่งยืน

เปิดรูปภาพ

รายงานนี้ รวบรวมการศึกษา ที่มีรายงานมาล่วงหน้าจนกระทั่งถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2023 ที่เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนโ ควิดและเ สียชีวิต

หลังจากที่มีการกลั่นกรองข้อมูลทั้งหมดจาก 678 รายการ พบว่ามี 44 รายงาน ที่มีการวินิจฉัย โดยมีการชันสูตรด้วย โดยมี 325 รายและอีกหนึ่งราย เป็นการพิสูจน์ชิ้นเ นื้อ

โดยจุดประสงค์เพื่อที่จะให้หลักฐานว่า วัคซีนโ ควิดเป็นสาเหตุตรงหรือเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เ สียชีวิต และเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่วงการแพทย์เพื่อให้เข้าใจในลักษณะอาการหรือกลุ่มอาการที่วัคซีนโ ควิดก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงได้

เปิดรูปภาพ

ระบบที่เสียหายและเกี่ยวข้องกับวัคซีนโ ควิดจนถึงเ สียชีวิตนั้น ประกอบไปด้วย ระบบหัวใจและหลอดเลือ ด 53% ระบบทาง โลหิตวิทยา 17% ระบบทางเดินหายใจ 8% และมีหลายระบบเสียหายร่วมกัน 7% ทั้งนี้ 21 รายในจำนวนผู้เ สียชีวิตดังกล่าวมีอวัยวะที่ได้รับผลกระทบสามระบบหรือมากกว่า

โดยที่ 302 รายเกิดจากระบบอวัยวะเดียว สามรายเกิดจากสองระบบ แปดรายเกิดขึ้นในสามระบบและ 13 รายเกิดขึ้นในสี่ระบบหรือมากกว่า

ระยะเวลาจากที่ได้รับวัคซีนจนกระทั่งเ สียชีวิตโดยเฉลี่ย 14.3 วัน และผู้ที่เ สียชีวิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายในเจ็ดวันหลังจากที่ได้รับวัคซีน

240 รายหรือ 73.9% ได้มีการพิจารณาจากหลักฐานต่างๆว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนโ ควิดจาก ความสัมพันธ์กับเงื่อนไขเวลา ความเป็นไปได้ในการอธิบายจากกลไกทางการกำเนิดพยาธิสภาพ และลักษณะเดียวกันที่เกิดขึ้นซ้ำๆกันในหลายรายงาน เป็นต้น

เปิดรูปภาพ

ประเด็นจากรายงานนี้ ควรจะได้รับการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถประเมิน ไม่ใช่แต่ประโยชน์หรือประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ต้องเป็นความปลอดภัยสูงสุด ของวัคซีน และมีความจำเป็นหรือไม่ที่จะมีการบังคับฉีดวัคซีนในแทบทุกอายุ และมีกลไกในการเซ็นเซอร์ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงของวัคซีน ดังที่มีการสอบสวนในรัฐสภาสหรัฐในขณะนี้ ที่เปิดโปงหน่วยงานของรัฐ และบริษัทที่มีอิทธิพล ต่อสื่อ รวมกระทั่งถึงมีโปรแกรม AI ที่พัฒนา จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐและนำมาใช้ตรวจตรา ตรวจสอบ บทความข้อมูลและในสื่อ เพื่อที่จะตอบโต้และดิสเครดิตทั้งหมด และมีการยอมรับจากการสอบสวน จากการที่มีกฎหมายความโปร่งใสของข้อมูลมากำกับ

จากผู้เ สียชีวิตทั้งหมด ที่มีการชันสูตร ทั้งร่ าง 325 ราย และชิ้นเนื้ อหัวใจ 1 ราย เป็น หญิง 139 ราย (42.6%)
อายุโดยเฉลี่ย 70.4 ปี 41% ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 37% ได้รับวัคซีนชิโนแวค 13% แอสตร้าเซเนกา 7% โมเดนา 1% Johnson และ Johnson และอีก 1% ชิโนฟาร์ม

เปิดรูปภาพ

รายงานนี้สอดคล้องกับหลายรายงานที่มีการศึกษาการเ สียชีวิตที่มากขึ้นอย่างผิดปกติหลังจากได้รับวัคซีน

Pantazatos และ Seligmann พบว่าการเ สียชีวิตเพิ่มขึ้น (increased mortality) ผิดปกติและน่าจะเกี่ยวเนื่องกับวัคซีน ภายในห้าสัปดาห์หลังได้รับวัคซีน ในทุกกลุ่มอายุ เป็นจำนวน 146,000 ถึง 187,000 ในสหรัฐอเมริกา ระหว่างกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคมปี 2021

Skidmore ประเมินว่าประมาณ 278,000 รายอาจจะเ สียชีวิตจากโควิ ดวัคซีนในสหรัฐเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2021

Aarstad และ Kvitastein ได้ทำการศึกษาประเทศในยุโรป 31 ประเทศด้วยกันและพบว่าประเทศใดที่มีการฉีดวัคซีนโ ควิดมากในปี 2021 จะมีความสัมพันธ์กับการเ สียชีวิตเพิ่มขึ้นในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2022 หลังจากที่ได้มีการตัดสาเหตุอย่างอื่นออก รวมทั้งมีรายงานในลักษณะนี้ขนาดใหญ่อีกหลายรายงานด้วยกัน

กลไก ที่อธิบายอันตร ายที่เกิดจาก modified mRNA วัคซีน จากรายงานทางวิทยาศาสตร์ พบว่าโปรตีนหนาม (spike protein) ไม่ได้กองอยู่ที่ตำแหน่งที่ฉีดที่แขน แต่ล่องลอยในกระแสเลือ ดได้นานถึงหนึ่งเดือน

รวมทั้งพบได้ในอวัยวะของคนที่หัวใจวายหรือมีการเสี ยชีวิตโดยกะทันหัน ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากที่ฉีดวัคซีน และการที่เป็นอนุภาคนาโนไขมัน ทำให้สามารถซึมเข้าเซลล์ได้ทุกระบบทุก อวัยวะและในเส้นเลือ ด และบังคับให้เซลล์สร้างโปรตีนหนามอย่างต่อเนื่อง โดยที่คนที่มีกล้ามเนื้อหัวใจอักเ สบจากวัคซีนจะพบว่ามีโปรตีนหนามล่องลอยอยู่ในกระแสเลือ ด และในเนื้ อเยื่อหัวใจ และไม่ได้อธิบายจากการที่วัคซีนไปกระทบกับตัวรับ ACE2 ที่ เบี่ยงเบนไปทางด้านการอักเสบเท่านั้น อย่างที่เข้าใจกันตอนแรก

ซึ่งแม้แต่กลไกดังกล่าวอย่างเดียว ก็ทำให้มีการอักเสบในร่างกายในเลือ ดอย่างต่อเนื่องได้แล้ว และทำให้หลอดเลือ ดเกร็งตีบจนกระทั่งถึงตันหรือผนังหลอดเลือ ดรั่ว

จากการที่มีการพัฒนาวัคซีน mRNA และกระบวนการผลิตวัคซีน ที่มีการปรับเปลี่ยนกรดนิวคลีโอไทด์ เพื่อให้เสถียรขึ้นและคงทนได้จากการถูกทำลายจากระบบภูมิคุ้มกัน

แต่ปรากฏว่า มีการแปลรหัสผิด มีการตกหล่นของ mRNA ไปหนึ่งถึงสองตัว แต่ก็มากพอที่จะทำให้เกิดการบังคับให้ผลิตโปรตีนที่ไม่ต้องการ (aberrant protein) แทนที่จะเป็นโปรตีนหนาม โดยกระบวนการนี้ เรียกว่า frameshift และโปรตีนที่แปรเปลี่ยนไปนี้ สามารถที่จะมีลักษณะคล้ายกับโปรตีน ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ และสามารถทำให้เกิดโ รคแพ้ภูมิตัวเองจนกระทั่งถึงมะเ ดังที่มี การรายงานในวารสารเนเจอร์ในเดือนธันวาคม 2023

และอีกทั้งยังมีการปนเปื้อนในวัคซีน modified mRNA นี้ ด้วย DNA ยีน SV40 enhancer และ ori ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในกระบวนการเพิ่มปริมาณ DNA ของ spike ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะแทรกเข้าไปในเซลล์มนุษย์และสั่งให้สร้างโปรตีนที่ผิดรูปแบบและทำให้เกิดโ รคต่างๆ ในระยะหลังจากที่ได้รับวัคซีนไป และ กลไกต่างๆนี้สามารถทำให้กระบวนการขจัดโปรตีนพิษบิดเกลียวผิดเพี้ยน

ซึ่งปกติแล้ว เซลล์ในร่างกายมีกลไกที่จะคลี่เกลียวออก เป็นโปรตีนที่นำมาใช้ใหม่หรือถ้าทำไม่สำเร็จก็ต้องขจัดออกไปให้หมด โดยที่ถ้ามีการสะสมของโปรตีนพิษเหล่านี้จะทำให้เซลลและถ้าเป็นในสมองจะเกิดสมองเสื่อม

เปิดรูปภาพ

ในส่วนของระบบภูมิคุ้มกันเองนั้น เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันสามารถที่จะยอมรับอนุภาคนาโนไขมันเหล่านี้และปล่อย

กลับเข้าไปในกระแสเลือ ด ในรูปของ Exosome ที่มีจำนวนมากขึ้น โดยที่ในอนุภาคนั้นจะประกอบไปด้วยโปรตีนหนาม และ microRNAs ที่สามารถล่องลอยไปยังอวัยวะที่ห่างไกลและสามารถกระตุ้นสัญญาณทำให้เกิดมีการอักเสบที่อาจจะเกิดเด่นในระบบเดียวหรือในหลายระบบพร้อมกัน และเกิดการเบี่ยงเบนจนเกิด การอักเสบไม่รู้จบ การแพ้ภูมิตนเอง โ รคหัวใจ

การเกิดมะ จาก mRNA วัคซีนที่ปรับแต่งนี้ยังสามารถอธิบายได้จากการที่มีการยับยั้ง IRF7 และ 9 อีกด้วย รวมทั้งการอักเสบ

และเป็นส่วนที่ควรจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเสี ยชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยอธิบายไม่ได้

เปิดรูปภาพ

รายงานรายละเอียดของวิธีการวินิจฉัย ทั้งหมดของทุกราย สามารถดูได้จาก supplemental table โดยที่ผู้เสี ยชีวิต แม้ว่าจะมีอายุเฉลี่ยค่อนข้างสูงคือ 70 ปี แต่มีอายุตั้งแต่ 14 รวมระหว่าง ช่วง 20 ถึง 30 และตั้งแต่ 30 ถึง 50 และอายุมากกว่านั้น

จุดมุ่งหมายของวัคซีนอยู่ที่การป้องกันโ รคและช่วยชีวิตเป็นสำคัญ ไม่ใช่ ก่อให้เกิดโรคและเสี ยชีวิตในคนแข็งแรงและคนที่เปราะบาง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *