ข่าวทั่วไป

ผบ.ตร. สั่งสอบวินัย-อาญา พี่สาว ตะโกนห้าม อาร์ม ปืนโหด ทำแผน

พี่สาว อาร์ม ปืนโหด โดนแล้ว ผบ.ตร. สั่งสอบวินัย-อาญา หลังตะโกนห้ามทำแผน ชี้ เป็นตำรวจจริง หลังครอบครัวผู้ตายร้อง ชี้ เป็นการกระทำไม่เหมาะสม

วันที่ 8 ก.พ.2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นำหญิงตั้งครรภ์ 9 เดือน และครอบครัวจาก จ.เพชรบุรี มายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ช่วยตรวจสอบพี่สาวของ นายภีมวัจน์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ อาร์ม อายุ 29 ปี

หลังปรากฏภาพไปตะโกนแนะนำผู้ต้องหาฆ่าคนตายว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ทำภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจเสื่อมเสียหรือไม่ มีผิดวินัยส่วนใดหรือไม่ มีการแทรกแซงหรือให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษก ตร. รับเรื่อง

พี่สาว อาร์ม ปืนโหด โดนแล้ว ผบ.ตร. สั่งสอบวินัย-อาญา หลังตะโกนห้ามทำแผน ชี้ เป็นตำรวจจริง

พี่สาว อาร์ม ปืนโหด โดนแล้ว ผบ.ตร. สั่งสอบวินัย-อาญา หลังตะโกนห้ามทำแผน ชี้ เป็นตำรวจจริง

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า จากกรณีคนร้ายขับจักรยานยนต์ไล่ยิง นายสุทัศน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.เพชรบุรี พ่อค้าขับรถเร่ขายของตามหมู่บ้าน เสียชีวิตริมถนนเพชรเกษม ม.10 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า ศาลจังหวัดเพชรบุรี อนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุ คือ นายภีมวัจน์ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต”

นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี ควบคุมตัว นายภีมวัจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิงนายสุทัศน์ หลานกำนัน ต.หัวสะพาน เสียชีวิต มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองเพชรบุรี

  • อ่านข่าว : รวบแล้ว อาร์ม ปืนโหด ยิงหลานกำนันดังดับ หลังครอบครัวไม่เผาร่างรอจับมือปืนให้ได้
  • อ่านข่าว : เปิดปม “อาร์ม หัวสะพาน” หลานนายพลตำรวจ ประกบยิง หนุ่มหน้าตาดี

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า หลังจากนายภีมวัจน์ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกของวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังมีการสอบปากคำเสร็จเรียบร้อย พนักงานสอบสวนได้คุมตัวเพื่อไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ

นายกัณฐัศว์ กล่าวด้วยว่า ปรากฏว่าการทำแผนล่ม เนื่องจากพี่สาวของนายภีมวัจน์ มายืนอยู่ตรงจุดทำแผน และสั่งน้องชายว่า ให้ยืนเฉย ๆ ไม่ต้องชี้ไม่ต้องพูดอะไร ไปให้การในชั้นศาลอย่างเดียว

กัน จอมพลัง กล่าวว่า คดีนี้ตนเห็นภาพที่ออกข่าวไปแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ที่พี่สาวมือปืน หรือผู้ต้องหาไปยืนให้คำแนะนำผู้ต้องหาคดีฆ่าอย่างอุกอาจแบบนั้น ซึ่งพี่สาว แม้จะอ้างว่า จะเป็นการลาราชการมา ก็อยากตรวจสอบทางวินัยตำรวจหญิงคนดังกล่าว พร้อมพฤติกรรมแบบนี้ทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสียหรือไม่

นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า ภาพที่เห็นออกมาแบบนี้ ตนรู้สึกสะเทือนใจ ซึ่งเข้าใจว่า ตำรวจหญิงรักน้อง อยากปกป้องครอบครัว ตนจึงอยากถามกลับไปว่า แล้วครอบครัวคนตายล่ะ เด็กในท้องกำลังจะคลอด ต้องกำพร้าพ่อ เคยมาพูดคุยขอโทษเขาบ้างหรือยัง แต่วันนี้ออกมาปกป้องผู้ก่อเหตุ

นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า ซึ่งหากจะอ้างเรื่องสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะไม่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจที่ทำคดีนี้มีความเป็นมืออาชีพพอ คาดว่ามีการแจ้งสิทธิ์ของผู้ต้องหา และมีการพูดคุยกับผู้ต้องหาแล้วจนยอมขึ้นรถไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไปด้วย

กัน จอมพลัง กล่าวว่า แต่พฤติกรรมของพี่สาวผู้ต้องหา มองว่า ไม่เหมาะสม เชื่อว่า ชาวบ้านทั่วไปที่เห็นแบบนี้ก็คงไม่สบายใจ จึงอยากให้มีการตรวจสอบ อยากร้องถึง ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจหญิงคนดังกล่าว

พี่สาว อาร์ม ตะโกนห้ามไม่ให้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา

พี่สาว อาร์ม ตะโกนห้ามไม่ให้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา

ด้าน พี่สาวของผู้ตาย กล่าวว่า คดีนี้ตนกังวลมาตั้งแต่แรก เนื่องจากทางฝั่งผู้ก่อเหตุมีเรื่องบาดหมางกับผู้ตายน้องชายของตนมาโดยตลอด เจอหน้าที่ไหนเป็นต้องทะเลาะกัน แล้วก่อนหน้านี้น้องชายก็เคยถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้ผู้ก่อเหตุทำกับน้องถึงขั้นเสียชีวิต

พี่สาวของผู้ตาย กล่าวต่อว่า และแม้ว่าจะเข้ามอบตัวและตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ก็ทำให้ตนรู้สึกกังวล เนื่องจากพี่สาวของผู้ต้องหาเป็นตำรวจ จึงอยากถามว่าเรียนกฎหมายมาเพื่อปกป้องครอบครัวตนอย่างเดียวใช่หรือไม่ แล้วเหตุการณ์นี้น้องชายตนก็ตายเหมือนกันแต่กลับไม่ได้รับการปกป้อง ซึ่งการรักน้องตนก็รักน้องเหมือนกัน แต่อยากให้รักอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ผบ.ตร. โทรสั่งการข้ามประเทศกำชับให้ดูแลคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งภาพที่เห็นว่า พี่สาวของผู้ต้องหาไปมีพฤติกรรมแบบนั้น ยอมรับว่า เป็นตำรวจจริง โดยได้สั่งการให้มีการตรวจสอบทั้งทางวินัยและอาญา

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า และเนื่องจากวันเวลาดังกล่าวเป็นวันราชการปกติ หากมีการลาเป็นการลาอย่างถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ส่วนการจะใช้สิทธิ์ไม่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา หรือญาติของผู้ต้องหาที่จะร้องขอได้ แต่ควรมีการพูดคุยกันส่วนตัวอย่างสุภาพ ไม่ใช่มายืนตะโกนจนเกิดเป็นภาพแบบนี้

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะตรงนั้นมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ถึงระดับผู้การจังหวัดลงพื้นที่ไปคุมการทำแผนด้วยสำหรับการทำแผนกรอบคำรับสารภาพ

ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาขอใช้สิทธิ์ไม่ทำแผนแต่ทางพนักงานสอบสวนก็สามารถหาพยานหลักฐานอย่างอื่น ในการเอาผิดและดำเนินคดีตามกฎหมายได้ การทำแผนหรือไม่ทำแผนจึงไม่มีผลต่อรูปคดี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *