เบส คำสิงห์ พูดประเด็นสมรักษ์กับเด็ก 17 ปี ลั่นจะปล่อยพ่อติดคุก ถ้าเข้าเงื่อนไข-ไม่โอเคที่โดนถ่ายรูป
ถือเป็นข่าวดังสุด ๆ สำหรับเดือนธันวาคมนี้เลยทีเดียว กับกรณีของ สมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกเด็ก 17 ปีกล่าวหาว่าไปทำอนาจาร พร้อมกับมีทั้งรูปถ่ายและแชตที่หลุดออกมา ซึ่งล่าสุด เบส คำสิงห์ ได้มาเปิดใจเรื่องนี้ในช่องของ นิกกี้ ณฉัตร เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เบสบอกว่า เรื่องคุณพ่อนั้นหนักหนามาตั้งแต่ต้นปี ตั้งแต่เรื่องเช็คเด้ง 1 ล้านบาท และต้องหาเงินมาจ่ายช่วยพ่อ ถ้าไม่จ่ายก็ต้องติดคุก ใครจะอยากให้พ่อแม่ตัวเองติดคุก จนนิกกี้ถึงกับเครียด เพราะพ่อนิกกี้ก็ติดคุก และนิกกี้ก็บอกว่าให้สมรักษ์ไปอยู่กับพ่อนิกกี้ การติดคุกมันไม่ได้หนักหนาแบบนั้น มันเหมือนอยู่โรงเรียนประจำ
เมื่อถามว่าเบสรู้สึกอย่างไร ที่ทำงานมาเหนื่อยแล้วต้องใช้หนี้ให้พ่อ เบสบอกว่า ก็ต้องมองกลับกัน ตอนเราเด็กพ่อก็ต่อยมวยเพื่อส่งให้เราเรียน พ่อก็ส่งเรียนโรงเรียนเอกชน ของใช้ก็แบรนด์เนม ตนไม่ได้ลำบาก พอพ่อล้มละลายตนถึงมารู้ว่าพ่อมีคดี จบที่ยึดทรัพย์ แต่ตอนนั้นโชคดีที่ตนทำยูทูบ เลยเอาเงินตัวเองให้ที่บ้าน แม่ของตนเป็นแม่บ้าน ส่วนพ่อหาเงินเข้าบ้าน ตนก็รู้สึกว่าพ่อคงลำบากมาก ๆ แต่เขาไม่เคยทำให้เรารู้สึกลำบาก จนวันนี้เราหาได้มากพอ เราก็ไม่อยากให้พ่อติดคุก ไม่ว่าจะเป็นหนี้กี่ล้าน ตนก็จะหามาให้ได้
เมื่อถามถึงเรื่องเด็ก 17 ปี ที่เป็นคดีความกับสมรักษ์ เบสบอกว่า ตอนนี้พ่อยังอยู่ที่ขอนแก่น และตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนยังไม่ได้เจอพ่อ เพราะตนบินกลับมา กทม. พอดี ตอนแรกครอบครัวคำสิงห์ไปถ่ายรีวิวที่ขอนแก่น ถ่ายเสร็จ ตน คุณแม่ น้องโบ๊ทก็กลับก่อน ส่วนสมรักษ์ก็อยู่ต่อ พอตนถึง กทม. พ่อก็โทร. มาว่าเกิดเหตุการณ์นี้ ตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวดังขนาดนี้ เรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์ได้เหมือนกัน สำหรับเบส เบสไม่โอเคกับการถ่ายรูป
โกบอยถามว่า สำหรับเบสมี 2 มุม คือมุมของพ่อ กับมุมของผู้หญิงด้วยกัน ในมุมของผู้หญิงด้วยกัน เบสว่าไง ซึ่งเบสบอกว่า ถ้าเกิดว่าเราไม่ยินยอม แบบนี้ก็น่าเห็นใจมาก ตนก็คงจะว่าพ่อเหมือนกัน คงจะปล่อยพ่อติดคุกไปเลย แต่ถ้าเรายินยอม มันแปลว่าอะไร มันก็พูดยาก เพราะเรายินยอม
เบสเสริมว่า ตอนที่ตนเที่ยวผับ ถ้าเข้าผับได้ก็ต้อง 20 ปี ถ้าอายุไม่ถึงก็เข้าไม่ได้ สำหรับเบสก็ไม่ได้อยากแตะฝั่งผู้หญิง แต่ของแบบนี้ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ถ้าพ่อไม่สนใจก็จบ เราก็ต้องโทษตัวเราเองก่อน ไม่ว่าเราผิดน้อยผิดมาก เราก็ต้องโทษตัวเองว่าเราไม่สติหรือเปล่า ไม่คิดให้ดีหรือเปล่า