กล้วยหอมเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่เป็นผลไม้ส่งออกของไทยโดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นมีความต้องการสูง แต่ละลูกเรียงกันอยู่ในหวีอย่างสวยงาม สีผิวของกล้วยเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็น สีเหลืองทอง รสชาติดี มีกลิ่นหอม น่ารับประทาน อีกทั้งผลผลิตมีความ ป ล อ ดภั ย ไม่มีสาร เ ค มี ต ก ค้ า ง ปนเปื้อน ทำให้กล้วยหอมทองของไทยได้รับความนิยม เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค กล้วยหอมเมื่อสุกจะมีสีเหลืองทอง รสชาติดี มีกลิ่นหอม น่ารับประทาน

ขั้นที่ตอนที่ 1 การเตรียมดิน ดินที่จะ “ปลูกกล้วยหอม” ต้องเป็นดินที่ร่วนซุย
ทำการไถพรวนพร้อมตากดินประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อเป็นการพลิกดินเพื่อ ฆ่ า เ ชื้ อโ ร ค ภายในแปลงหากแปลงที่เคยปลูพืชอื่นมาก่อนเเล้วมีการ ร ะ บ า ด ข อ ง โ ร ค ควรตากดินให้นานมากขึ้น เเละโรยปู น ขา ว เ พื่ อ กำ จั ด เ ชื้ อ โ ร ค ภายในแปลง จากนั้นทำการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับสภาพความเป็นกรดด่างของดิน
อัตรา 25-50 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นที่ที่เหมาะสำหรับการปลูกกล้วย ควรปลูกในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำและการหมุนเวียนอากาศดีถ้าเกษตรกรปลูกกล้วยในดินเป็นดินเหนียวควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะช่วยให้ ดิ น ร่ว นโ ปร่งรากสามารถเเผ่กระจายเพื่อหาอาหารได้ดีมากขึ้น

ขั้นที่ตอนที่ 2 การเตรียม ห น่ อ พัน ธุ์ การคัดเลือกหน่อ พั น ธุ์
ก่อน ปลูกกล้วยหอมเป็นสิ่งสำคัญต่อผลผลิตที่จะได้รับในอนาคตห น่ อพั น ธุ์ ที่อ่อนหรือแก่จนเกินไปจะทำให้กล้วยตกเครือไม่พร้อมกัน การเลือก ห น่ อ พั น ธุ์ ปลูกกล้วยหอม ควรเป็นหน่อใบแคบหรือหน่อดาบเป็นหน่ออ่อนที่มีใบอยู่ประมาณ 3 – 4 ใบ สังเกตุได้จากใบที่เรียวเล็ก หน่อลักษณะเช่นนี้มักจะเกิดอยู่กับโคนต้นเดิมและมีขนาดอวบสมบูรณ์เหมาะสำหรับที่จะเลือกไปเป็นหน่อ พั น ธุ์ ปลูกอย่างยิ่ง
ขั้นที่ตอนที่ 3 ก า ร ป ลู ก สามารถปลูกได้ในทุกช่วงฤดู

เเต่ฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกล้วยหอมคือ ช่วงต้นฤดูฝนเพราะดินจะมีความชื้น เพราะอาศัยน้ำในฤดูฝนได้ ขุ ด ห ลุ ม ให้มีขนาดความ กว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 50 เซนติเมตร นำดินที่ ขุ ด ได้กองตากไว้ 5 – 7 วัน หลังจากนั้นเอาดินชั้นบนที่ตากไว้ลงไป ก้ น หลุ ม ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
แล้วจึงเอาหน่อกล้วยที่เตรียมไว้ วางที่ตรง ก ลา งห ลุ ม เอาดินล่างกลบ รดน้ำ และกดดินให้แน่น ยอดของหน่อควรสูงกว่าระดับดินประมาณ 10 เซนติเมตร ควรหัน ร อ ยแ ผล ข อ ง หน่อให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน เพราะเมื่อโตเต็มที่และ ติ ด ผล ผลจะเกิดในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับ ร อ ย แ ผ ล และอยู่ในทิศทางเดียวกัน
ขั้นที่ตอนที่ 4 การตัดแต่งหน่อและใบกล้วยหอม

เมื่อต้นกล้วยมีอายุได้ 4 – 6 เดือน จะเริ่มมีการแตกหน่อ หน่อที่เกิดมาเรียกว่า หน่อตาม กล้วยถ้ามีหน่อมากควรเอาหน่อออกเพื่อลดการแย่งอาหารจากต้นแม่ โดยควรเก็บหน่อไว้ 1 – 2 หน่อ เพื่อให้เป็นตัวพยุงต้นแม่เมื่อมีลมแรงและเพื่อใช้เป็นต้นพันธุ์สำหรับเก็บเกี่ยวผลผลิตในปีต่อไป
การตัดแต่งใบกล้วยขณะที่มีการแต่งหน่อ ควรทำการตัดแต่งใบกล้วยควบคู่ไปด้วยและควรตัดแต่งใบกล้วยไปจนกว่ากล้วยจะตกเครือ การตัดให้เหลือใบกล้วยไว้กับต้น 10 – 20 ใบต่อต้น ตัดด้วย มี ด ขอให้ชิดต้นกล้วย อย่าให้เหลือก้านกล้วยยื่นยาวออกมาเพราะส่วนที่เหลือยื่นยาวไว้นั้นจ ะเ หี่ ย ว แล้วรัดลำต้นทำให้ลำต้นส่วนกลางขยายได้ไม่มากเท่าที่ควร
ขั้นที่ตอนที่ 5 การใส่ปุ๋ยบำรุงต้น

–ช่วงอายุ 1-3 เดือน ระยะพัฒนาต้น ใส่ปุ๋ย เ ค มี สูตร 15-15-15 ประมาณ 1 กำมือต่อต้น โดยให้ปุ๋ยทุก 1 เดือนเพื่อบำรุงต้น
–ช่วงอายุ 3-5 เดือน ระยะทำปลี ใส่ปุ๋ย เ ค มี สูตร 15-15-15 เเละปุ๋ย เ ค มี สูตร 25-7-7 อย่างละ 2 กำมือต่อต้น โดยให้ปุ๋ยทุก 1 เดือน เพื่อช่วยส่งเสริมการสร้างปลี เเละบำรุงต้น
–ช่วงอายุ 5-9 เดือน ระยะพัฒนาผล ใส่ปุ๋ย เ ค มี สูตร 15-15-15 เเละ ปุ๋ ยเ ค มี สูตร 13-13-21 อย่างละ 2 กำมือต่อต้น โดยให้ปุ๋ยทุก 1 เดือน เพื่อพัฒนาผลเเละส่งเสริมด้านคุณภาพของผลผลิต

ขั้นที่ตอนที่ 6 การให้น้ำ การให้น้ำผ่านร่องเป็นวิธีการที่ดีที่สุด
เพราะต้นกล้วยได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ น้ำสามารถซึมลงไปในผิวดินได้ดีมากกว่าระบบสปริงเกอร์ อีกทั้งการให้น้ำ ผ่า น ท้อ งร่ อ ง เป็นวิธีที่ช่วยลด อัตราการเเพร่กระจายข อง โ ร ค ไ ด้ ดี เเละยังทำให้ดินมีความชื้นเพียงพอต้นกล้วย เนื่องจากกล้วยเป็นพืชที่ชอบน้ำ เเต่ ไม่ ช อ บ เ เฉะ ระยะเวลาการให้น้ำขึ้นอยู่กับความชื้นภายในดิน เเละสภาพภูมิอากาศหรือฤดูในช่วงนั้นด้วย

ขั้นที่ตอนที่ 7 การค้ำยันต้น กล้วยหอมมักมีผลขนาดใหญ่
เเละมีน้ำหนักมาก หากไม่ค้ำไว้ ต้นอาจล้ม ทำให้ เ ค รื อ หั กไ ด้ จำเป็นต้องค้ำบริเวณโคนเครือกล้วยไว้ โดยใช้ไม้ไผ่หรือไม้อื่นที่มีง่าม
ขั้นที่ตอนที่ 8 การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับพืช
ฉีดพ่นฟาร์มเมอร์มีทางใบ อัตรา 2 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 1 เดือน เพื่อช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต ทำให้ ต้น ใบ ดอก สมบูรณ์ เเละส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพืชทำให้พืชทนต่อสภาวะเเวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อากาศร้อนจัด ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

ชาวเกษตรกรท่านไหนที่กำลังคิดหารายได้เสริมเราแนะนำให้ปลูกต้นกล้วยหอมค่ะ ปลูกง่าย โตไว และยังเป็นความต้องการของทางตลาดตลอดด้วย เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเรื่องผิวพรรณและ ระ บ บ ขั บ ถ่า ย ได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูล : farmermee.com