จำได้ว่าสมัยก่อน ผักหวานป่า หากินยากมาก เพราะจะมีอยู่แต่ในป่าและได้กินเฉพาะช่วงหน้าร้อน-หน้าฝน เท่านั้น แต่หลายปีมานี้มีการนำเมล็ดพันธุ์ผักหวานป่ามาปลูกกันอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบผักชนิดนี้มีกินได้ตลอดทั้งปี ในราคาที่จับต้องได้
การปลูกผักหวานป่าก็ทำให้ ร ว ย ได้เหมือนกัน ซึ่งบทความนี้จะชวนมาอ่านเรื่องราวของจ่าติ๊ก ที่ทำสวนผักหวานมากว่า 23 ปีแล้ว โดยเขาเริ่มสนใจตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 และเริ่มจริงจังกับการขย ายพันธุ์แบบตอนกิ่งตอน 2547 และเห็นว่าแบบนี้ผักหวานเจริญเติบโตได้เร็วกว่าการเพาะเมล็ด ใครสนใจอย ากจะดูสวนต้องไปที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และสำหรับใครที่อย ากจะปลูกบ้างก็หาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วเริ่มลงมือปลูกเลย

ผักหวานป่าที่ปลูกจากการตอนกิ่งนั้นใช้เวลา 2 ปีก็มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวแต่ถ้าปลูกจากเมล็ดก็นานขึ้นไปอีกคือ 3 ปี แต่ว่าการตอนกิ่งจะมี ต้ น ทุ น ที่สูงกว่า เพราะ ร า ค า กิ่งตอนไม่ใช่ถูก ๆ เลย ร า ค า โดยประมาณอยู่ที่ 100 บ า ท /กิ่ง ในความสูง 50 – 80 เซนติเมตร ส่วน ร า ค า เพาะเมล็ดจะอยู่ที่ 25 บ า ท /สองต้น ใครสะดวกปลูกแบบไหนก็ได้เลย หรือจะซื้อเป็นเมล็ดไปเพาะเองจะอยู่ที่ 300 บ า ท /กิโลกรัม

แต่ก็แนะนำว่าปลูกกิ่งตอนจะดีกว่าและควรจะปลูกทันทีหลังการตัดตุ้มลงจากต้นจะทำให้ต้นผักหวานนั้นเจริญเติบโตได้ดี โดยไม่ต้องนำไปเพาะในถุงเพาะชำแต่ลงแปลงจริงได้เลย พอเข้าหน้าฝนสัก 2 – 3 เดือนรากต้นผักหวานจะเดินเร็วมาก แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนและหนาวรากจะค่อนข้างช้าหน่อย และระวังอย่ าให้กิ่งตุ้มตอนแห้งต้องชุ่มชื้นเสมอถ้าแห้งรากจะไม่มา

หลุมปลูกควรจะรองก้ นด้วยขี้วัวแห้งผสมดินก้ นหลุม และความลึกของหลุมปลูกให้อยู่ที่ 1.5 x 2 เมตร จะได้จำนวน 500 ต้น/ไร่ ระยะการปลูกจะอยู่ที่ 2 x 2 เมตรก็จะได้ 400 ต้น/ไร่ และหลังการปลูกต้องรดน้ำให้ชุ่มทันที อย่ าให้ต้นผักหวานขาดน้ำเด็ดขาด จะต้องให้น้ำสม่ำเสมอและบำรุงด้วยขี้วัวปีละ 2 ครั้ง ประกอบกับให้ปุ๋ ยสูตร 16 – 20 – 0 ด้วยปีละ 2 ครั้งเช่นกัน จะทำให้ดินดีมีอาหารให้ต้นผักหวาน และผักหวานจะชอบอยู่ในที่ร่มรำไรมากกว่าการแจ้ง ฉะนั้นจะต้องมีพืชที่เป็นพี่เลี้ยงให้ต้นผักหวานด้วย

ผักหวานนั้นเป็นพืชที่โตเร็วกิ่งค่อนข้างเปราะง่ายมากโดนลมพักสักหน่อยก็หักแล้ว ใบและเมล็ดนำไปเป็นน้ำห มั กจัดการศัตรูพืชได้ด้วย และเวลาเราปลูกผักหวานแล้วจะสามารถเก็บได้ถึง 6 – 7 ปีเลยทีเดียว แต่ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และความแข็งแรงของต้นด้วย ผักหวานนั้นหลังการปลูก 2 ปีเราจะเก็บยอดได้แล้ว ปกติก็ 3 ปีหากเพาะเมล็ด ซึ่งจะได้ผลผลิต 1 ขีด/ต้น/ครั้ง เก็บยอดอายุ 6 – 7 ปี จะให้ได้ผลผลิต/ต้น/ครั้งที่เก็บ ถ้าอย ากให้แตกยอดดีก็ให้เก็บยอดในช่วงหน้าฝน จะแตกดีต่อในช่วงหน้าร้อนและหน้าหนาว
หากต้องการจะให้มียอดผักหวานเก็บได้ตลอดทั้งปีก็แบ่งเป็นแปลงย่อย ๆ โดยการหักกิ่งหรือตัดกิ่งลงมาจากยอดสักประมาณ 30 – 35 เซนติเมตร โดยหักสัก 30 – 40 % ของต้น แล้วรูดใบออกให้หมดเลยแล้วบำรุงรดน้ำใส่ปุ๋ ย ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์ก็จะเริ่มเห็นยอดใหม่ออกมาแล้ว และในหน้าฝนผักหวานจะ ร า ค า แพงกว่าฤดูอื่น ๆ ด้วย

ร า ค า ผักหวานจะอยู่ที่ประมาณ 80 บ า ท /กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนจะ ร า ค า ขึ้นมาเป็นประมาณ 120 บ า ท /กิโลกรัม ซึ่งก็เป็น ร า ค า หน้าสวน แน่นอนว่าหากเป็น ร า ค า ข า ย ป ลี ก จะยิ่ง ร า ค า สูงกว่านี้หลายเท่าด้วยฉะนั้นหากคุณจะปลูกผักหวาน ข า ย ก็ให้มีผลผลิตในหน้าฝนด้วยจะดีมากทีเดียว สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจและอย ากจะสอบถามข้อมูลการปลูก คำแนะนำจากจ่าติ๊กก็ติ ด ต่ อได้โดยตรงที่ เบ อ ร์ 086-124-6596 ได้เลย
ขอบคุณข้อมูล : kasetchaoban.com