การถวายอาหารบิณฑบาตแก่ภิก ษุ ส งฆ์ให้แก่บรรดาท่านพุท ธ ศ าสนิ ก ชนทั้งหลายที่ได้พร้อมกันนำอาหารบิ ณ ฑบ าตพร้อมด้วยเครื่องบริวารทั้งหล ายมาถวายในท่ามก ลาง สงฆ์มิได้จำเพาะเจาะจงแก่ พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งก็หามิได้อย่างนี้เรียกว่าสังฆทานอีกอย่างหนึ่งเรียกว่าถวายทานเจาะจงบุคลิก

รูป นั้น รูปนี้ อย่างนี้เรียกว่า ปาฏิบุคลิกทาน จึงจัดเป็น ๒ ประเภทดังที่ได้แสดงมาแล้วนั้นการ ถว า ยทานนั้น ถ้าถ ว ายเป็นสังฆทานมีผลาสิสงส์มากกว่าบุคลิ กทาน จากดังจะเห็นจากพระสิวลีเถระผู้มีลาภมาก จนได้รับเป็นเอตทัคคะ จากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้เลิศด้วยลาภ
จะไปทางไหน ก็มีแต่อดิเรกลาภ เหลือหลาย บริบูรณ์ ก็เพราะท่านได้ถวายทานมาแต่ในชาติปางก่อน ชาตินี้ท่านก็มีความสุขกายสบายใจไม่เดือ ด ร้ อนอดอยาก ความพิสดารว่าในสมัยหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้าสิวลีได้เกิดเป็นบุตรของเศรษฐี

เมื่อเจริญวัยขึ้น มาก็มีจิตศรั ท ธ าเลื่อมใสได้ให้ทานแก่พระปัจเจกโพธิวันละองค์ ๆ ครั้นต่อมาได้รับสมบัติแทนบิดา
เป็น เศรษฐีก็ถวายทานแก่พระปัจเจกโพธิขึ้นอีกรวมเป็น ๗ องค์ ต่อวัน ตลอดมากระทำอยู่ดังนี้จนสิ้นชีพ ก็ ได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นยามามีวิมานสูง ๓๐ โยชน์ มีนางฟ้าเทพอัปสรหนึ่งหมื่นเป็นบริวาร เสวยสุข
ทิพย์สมบัติในชั้นยามาประมาณโกฏิปีในเมืองมนุษย์ ครั้นถึงศาสนาของสมเด็จพระพุทธเจ้าของเราทุก

วันนี้จึงจุติมาถือกำเนิดในตระกูลเจ้าศากยะ บริบูรณ์โภคสมบัติยิ่งนัก ครั้นเจริญวัยขั้นมาก็ออกบวชต่อ พระพุทธเจ้า ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ มีชื่อว่าพระสิวลีเถระ
เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายที่มี ลาภมาก พระเถระจะไปสู่สถานที่ใดเทวดามนุษย์ทั้งหลายย่อมสักก ารบู ช าด้วยเครื่องไทยทาน ย่างมาก มายแม้บริว ารของท่านก็พลอย บริบูรณ์ พูนสุขไปด้วยดังนี้ ก็เพราะอานิส งส์แห่งการถวาย ทานใ ห้เป็น สังฆทาน
ขอบคุณข้อมูล : dollcatalogs.com