Friday, 8 December 2023

ชายหนุ่มทำงานเป็น 10 ปี ขอลาออก แต่ไม่รับค่าจ้าง เขาเลือกแค่คำเตือน 3 ข้อ

ชายวัยทำงานคนหนึ่ง ได้ทำงานอยู่บนเรือกลางทะเล เป็นเวลาสิบกว่าปี และตอนนี้เขาก็คิดว่า ถึงเวลาต้องกลับบ้านเสียที จึงได้ไปบอกเจ้านายว่าจะขอลาออก เพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งในระหว่างที่เขาทำงานอยู่ที่นี่บนเรือ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเลย ข้าวก็มีให้กินฟรีทุกมื้อ ทำให้เงินเดือนทั้งหมดของเขาที่ทำงานมาเป็นสิบปียังอยู่ครบ

เมื่อเขาบอกนายจ้างว่าจะกลับไปอยู่บ้านกับครอบครัวแล้ว นายจ้างจึงถามเขาว่า ต้องการรับค่าจ้างทั้งสิบปีกลับไป หรือจะรับเป็นคำเตือน 3 ข้อ จากเขาแทน

เขาจึงบอกเจ้านาย ขอเวลากลับไปนอนคิดสักหนึ่งคืน ซึ่งเจ้านายเป็นคนที่เขาเคารพมาก และก็เป็นคนใจดีและเอื้ออาทรกับลูกน้องมาตลอด จึงเป็นที่รักของลูกน้องทุกคน เขาจึงคิดได้ว่า คำเตือนจากเจ้านาย ต้องมีค่าต่อเขามากแน่นอน

เช้าวันต่อมา ก่อนวันที่เขาจะเดินทางกลับบ้าน เขาก็ได้ไปบอกเจ้านาย ว่าเขาจะขอรับคำเตือน 3 ข้อ แทนการรับค่าจ้างทั้งหมด และเจ้านายก็ได้ให้คำเตือนนั้นมาทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้

1.อย่าคิดหาทางลัดสู่เป้าหมาย เพราะมันเป็นไปได้ยาก ทุกอย่างต้องยืนอยู่บนพื้นฐาน ของความเป็นจริง

2.อย่าไปมัวเสียเวลา หรือเสี่ยงกับสิ่งเย้ายวนใจชั่วคราว ต้องมีจิตใจที่เข็มแข็ง ไม่เช่นนั้นอาจจะสูญเสียอนาคตได้

3.อย่าตัดสินใจด้วยความวู่วามในยามที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว เพราะอาจทำให้ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

จากนั้นนายจ้างก็ได้มอบขนมปังให้เขา 3 ก้อนใหญ่ พร้อมกับค่าตอบแทนจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น และยังกำชับอีกว่า ขนมปังก้อนที่ใหญ่ที่สุดให้นำออกมากินตอนที่ถึงบ้านแล้วเท่านั้น

เขาได้เริ่มออกเดินทางเพื่อกลับบ้านไปหาคนที่รัก ใช้เวลาหลายวัน ขนมปังก้อนแรกก็หมดไปแล้วกว่าครึ่งชิ้น และเมื่อเดินทางมาถึง 3 แยก ก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี จึงได้ถามคนที่ผ่านไปมาแถวนั้น

คนแรกบอกเขาให้เดินไปตามทางถนนใหญ่ ไกลหน่อยแต่สะดวกและก็ปลอดภัยกว่า ส่วนอีกคนบอกให้เขาใช้ทางลัด เพราะมันใกล้กว่า แม้ว่าทางจะแคบและมืดสักหน่อย

แต่ด้วยความคิดถึงคนที่รักเป็นอย่างมาก อยากจะได้เจอหน้าเร็วๆ เขาจึงเลือกไปทางลัด แต่เมื่อเดินทางไปได้สักพัก ก็เห็นมีคนรีบวิ่งสวนมา และบอกให้เขารีบหลบ เพราะมีโจรกำลังดักปล้นอยู่ทางข้างหน้า เขาจึงได้นึกถึงคำเตือนของนายจ้าง “อย่าคิดหาทางลัดสู่เป้าหมาย” จึงตัดสินใจหันหลังกลับแล้วไปใช้เส้นทางหลักแทน

จากนั้นเขาเดินทางต่อไปอีกหลายวัน ขนมปังก้อนที่สองก็ใกล้จะหมดอีกแล้ว พอฟ้าเริ่มมืด เขาจึงได้หาที่พักเป็นห้องพักเล็กๆข้างทาง เพื่อค้างแรมคืนนี้ พอตกดึกเขาได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเพลง เป็นเสียที่ไพเราะเสนาะหูมาก เขาอยากที่จะออกไปดูหน้าสตรีเจ้าของเสียงมากเสียเหลือเกิน แต่เมื่อเขานึกถึงคำเตือนข้อที่ 2 ของนายจ้าง “อย่าเสียเวลา หรือเสี่ยงกับสิ่งเย้ายวน” ทำให้เขาสงบจิตใจตัวเองลง และนอนหลับไป

ตอนเช้าก่อนออกจากที่พัก เจ้าของที่พักจึงได้วิ่งมาหาเขา แล้วพูดด้วยความร้อนใจว่า โชคดีจังที่คุณปลอดภัย เพราะเมื่อคืนมีแขกห้องพักอื่นได้เดินออกมาตามหาเสียงเพลงของผู้หญิง แล้วถูกเจ้าของเสียงที่เป็นหญิงที่มีสติฟั่นเฟือน ใช้ มี ด ไ ล่ ฟั น จนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ไปที่โรงพยาบาลแล้ว

เขาเดินทางต่อไปอีกหลายวัน ก็มาถึงทางเข้าหมู่บ้าน แต่เมื่อเขากำลังจะเคาะประตูเรียกคนรักของเขา เขากลับได้ยินคนรักกำลังยืนคุยกับผู้ชายในบ้าน เขารู้สึกโกรธมาก และคิดว่าภรรยาของเขามีชู้แน่ๆ จึงได้ ค ว้ า มี ด และกำลังจะพังประตูเข้าไป

แต่ในหัวของเขาก็นึกถึงคำเตือนข้อที่ 3 ของนายจ้างขึ้นมาทันที “อย่าตัดสินใจวู่วามในยามที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว” ทำให้เขาได้สติ และก็ได้แต่ทรุดตัวนั่งลงอยู่หน้าประตู ร้องไห้ด้วยความเสียใจจนเผลอหลับไป ตื่นเช้ามา ภรรยาของเขาจึงได้เปิดประตูบ้านออกมา ก็พบกับสามีอันเป็นที่รัก จึงแสดงอาการดีใจเป็นอย่างมาก แต่คนเป็นสามีกลับมีใบหน้าที่เรียบเฉยและดูเศร้าหมอง เพราะเขาเสียใจกับเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นอย่างมาก

จากนั้นเขาจึงได้เอ่ยปากถามภรรยาไปว่า ผู้ชายที่อยู่ในบ้านกับคุณนั้นเป็นใคร ภรรยาจึงยิ้มและตอบว่า นั่นลูกชายของเราเอง ฉันคลอดลูกหลังจากที่คุณจากบ้านไปไม่กี่เดือน แล้วพ่อลูกก็ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะสวมกอดกันทั้งครอบครัวด้วยความคิดถึง

ภรรยากำลังจะไปจัดเตรียมมื้อเย็นไว้ให้ แต่สามีกลับบอกว่า “ไม่ต้องเหนื่อยทำหรอกวันนี้ ผมมีขนมปังก้อนสุดท้ายเหลืออยู่ เจ้านายบอกว่าให้เหลือชิ้นนี้ไว้กินตอนที่ถึงบ้านแล้ว เรามากินด้วยกันเถอะ” และเขาก็ได้หยิบขนมปังก้อนใหญ่ชิ้นสุดท้ายขึ้นมาจากกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นก็เตรียมจะแบ่งให้ภรรยาและลูกกินกัน แต่พอเขาฉีกขนมปังออก กลับพบเงินก้อนโตที่ถูกใส่ไว้ในนั้น ซึ่งเป็นจำนวนเงินค่าจ้างที่เขาทำงานมาเป็นสิบปี เงินทั้งหมดอยู่ในนี้

เมื่อเขาเห็นเงินก้อนนี้ ก็นึกถึงเจ้านายผู้เป็นที่เคารพรักของเขา และซาบซึ้งเป็นอย่างมาก กับสิ่งที่เจ้านายให้มา รวมถึงคำเตือยสามข้อนั้น ก็มีค่ากับเขาเป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะถ้าไม่มีคำเตือนเหล่านั้น เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาเจอหน้าภรรยาและลูกของเขาเลยก็ได้

ขอบคุณที่มา : ห้องสมุดฟลิ้นท์ “ขจรศักดิ์”